วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551

พัฒนาการเด็ก



พัฒนาการเด็กเมื่ออายุ 1 เดือน

สบตา

จ้องหน้าแม่
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ………………เดือน

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

กินนมแม่อย่างเดียว

ยิ้มแย้ม มองสบตา เล่นพูดคุยกับลูก

เอียงหน้าไปมาช้าๆ ให้ลูกมองตาม

อุ้มบ่อยๆ อุ้มพาดบ่าบ้าง

พัฒนาการของเด็กวัย 2 เดือน

คุยอ้อแอ้ ยิ้ม

ชันคอในท่าคว่ำ
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ ………………เดือน

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

กินนมแม่อย่างเดียว

เล่นกับลูกโดยแขวนของสีสด ห่างจากหน้าลูกประมาณ 1 ศอกให้ลูกมองตาม

พูดคุยทำเสียงต่างๆ และร้องเพลง

ให้ลูกนอนคว่ำในที่นอนที่ไม่นุ่มเกินไป

พัฒนาการของเด็กวัย 3 เดือน

ชันคอได้ตรงเมื่ออุ้มนั่ง

ส่งเสียงโต้ตอบ
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ ………………เดือน

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

กินนมแม่อย่างเดียว

อุ้มท่านั่ง พูดคุยทำเสียงโต้ตอบกับเด็ก

ให้ลูกนอนเปล หรืออู่ ที่ไม่มืดทึบ

พัฒนาการของเด็กวัย 4 เดือน

ไขว่คว้า

หัวเราะเสียงดัง

ชูคอตั้งขึ้นในท่าคว่ำ
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ ………………เดือน

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

กินนมแม่อย่างเดียว

จัดที่ที่ปลอดภัยให้เด็กหัดคว่ำ คืบ

เล่นกับลูกโดยชูของเล่นให้ลูกไขว่คว้า

ชมเชย ให้กำลังใจลูก เมื่อลูกทำได้

พัฒนาการของเด็กวัย 5 เดือน

คืบ

พลิกคว่ำ พลิกหงาย
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ ………………เดือน

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

หาของเล่นสีสดชิ้นใหญ่ที่ปลอดภัยให้หยิบ จับ และให้คืบไปหา

พ่อแม่ช่วยกันพูดคุย โต้ตอบ ยิ้มเล่นกับเด็ก

พูดถึงสิ่งที่กำลังทำอยู่กับเด็ก เช่น อาบน้ำ กินข้าว

พัฒนาการของเด็กวัย 6 เดือน


คว้าของมือเดียว

หันหาเสียงเรียกชื่อ

ส่งเสียงต่างๆ โต้ตอบ
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ ………………เดือน

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

เวลาพูดให้เรียกชื่อเด็ก

เล่นโยกเยกกับเด็ก

หาของให้จับ

พัฒนาการของเด็กวัย 7 เดือน

นั่งทรงตัวได้เอง

เปลี่ยนสลับมือถือของได้
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ ………………เดือน

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

อุ้มน้อยลง ให้เด็กได้คืบและนั่งเล่นเอง โดยมีคุณแม่คอยระวังอยู่ข้างหลัง

ให้เล่นสิ่งที่มีสี และขนาดต่างกัน เช่น ลักษณะผิวเรียบ - หยาบ อ่อน - แข็ง

ให้หยิบจับสิ่งของ เข้า - ออก จากถ้วย หรือกล่อง

พัฒนาการของเด็กวัย 8 เดือน

มองตามของที่ตก

แปลกหน้าคน
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ ………………เดือน

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

กลิ้งของเล่นให้เด็กมองตาม

พูดและทำท่าทางเล่นกับเด็ก เช่น จ๊ะเอ๋ จับปูดำ แมงมุม จ้ำจี้ ตบมือ

พัฒนาการของเด็กวัย 9 เดือน


เข้าใจเสียงห้าม

เล่นจ๊ะเอ๋ ตบมือ

ใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือหยิบของชิ้นเล็ก
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ ………………

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

หัดให้เกาะยืน เกาะเดิน

หัดให้เด็กใช้นิ้วหยิบ จับของกินชิ้นเล็กเข้าปาก เช่น ข้าวสุก มะละกอหั่น มันต้มหั่น ฟักทอง ต้ม
ห้ามใช้ถั่ว หรือของที่จะสำลักได้

พัฒนาการของเด็กวัย 10 เดือน


เหนี่ยวตัว เกาะยืน เกาะเดิน

ส่งเสียงต่างๆ "หม่ำ หม่ำ", "จ๊ะ จ๋า"
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ ………………

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

จัดที่ให้เด็กคลาน และเกาะเดินอย่างปลอดภัย

เรียกเด็ก และชูของเล่นให้เด็กสนใจเพื่อลุกขึ้นจับ

พัฒนาการของเด็กวัย 1 ปี

ตั้งไข่

พูดเป็นคำที่มีความหมาย เช่น พ่อ แม่

เลียนเสียง ท่าทางและเสียงพูด
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ ………………

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

ให้เด็กมีโอกาสเล่นสิ่งของโดยอยู่ในสายตาผู้ใหญ่

พูดชมเชย เมื่อเด็กทำสิ่งต่างๆ ได้

พูดคุย ชี้ และบอกส่วนต่างๆ ของร่างกาย

พัฒนาการของเด็กวัย 1 ปี 3 เดือน

เดินได้เอง

ชี้ส่วนต่างๆ ของร่างกายตามคำบอก

ดื่มน้ำจากถ้วย
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ……………………..

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

พูดคุย โต้ตอบ ชี้ชวนให้เด็กสังเกตของและคนรอบข้าง

ให้หาของที่ซ่อนใต้ผ้า

ชี้ให้ดูภาพ และเล่าเรื่องสั้นๆ ให้เด็กฟัง

ให้เด็กหัดตักอาหาร ดื่มน้ำจากถ้วย และแต่งตัวโดยช่วยเหลือตามสมควร

พัฒนาการของเด็กวัย 1 ปี 6 เดือน

เดินได้คล่อง

รู้จักขอ และทำตามคำสั่งง่ายๆ ได้
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ……………………..

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

ให้โอกาสเด็ก เดิน วิ่ง และหยิบจับสิ่งของโดยระมัดระวังความปลอดภัย

ร้องเพลง คุยกับเด็กเกี่ยวกับสิ่งรอบตัว เล่นเกมส์ง่ายๆ

จัดหา และทำของเล่นที่มีสี และรูปทรงต่างๆ

พัฒนาการของเด็กวัย 1 ปี 8 เดือน

พูดแสดงความต้องการ

พูด 2-3 คำ ติดต่อกัน

เริ่มพูดโต้ตอบ

ขีดเขียนเป็นเส้นได้
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ……………………..

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

เมื่อเด็กพยายามทำสิ่งใด ควรสนใจ ชี้แนะ และให้กำลังใจ โดยให้เด็กคิดเอง และทำเอง บ้าง

ฝึกลูกให้ช่วยตัวเอง เช่น ขับถ่ายให้เป็นที่ รู้จักล้างมือก่อนกินอาหารและหลังขับถ่าย

ให้เด็กมีส่วนร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ในบ้าน

พัฒนาการของเด็กวัย 2 ปี

เรียกชื่อสิ่งต่างๆ และคนที่คุ้นเคย

ตักอาหารกินเอง
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ……………………..

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

คุณพ่อคุณแม่ทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีตลอดเวลา และอบรมสั่งสอนลูกด้วยเหตุผลง่าย

สอนลูกให้รู้จักทักทาย ขอบคุณ และขอโทษในเวลาที่เหมาะสม

พัฒนาการของเด็กวัย 2 ปี 6 เดือน

ซักถาม "อะไร" พูดคำคล้องจอง

ร้องเพลงสั้นๆ

เลียนแบบท่าทาง

หัดแปรงฟัน
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ……………………..

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

พาเด็กเดินรอบบ้าน และบริเวณใกล้ๆ ชี้ชวนให้สังเกตสิ่งที่พบเห็น

หมั่นพูดคุยด้วยคำพูดที่ชัดเจน และตอบคำถามของลูกโดยไม่ดุ หรือแสดงความรำคาญ

ชวนลูกแปรงฟัน เมื่อตื่นนอนและก่อนนอนทุกวัน

พัฒนาการของเด็กวัย 3 ปี

บอกชื่อ และเพศตนเองได้

รู้จักให้และรับ รู้จักรอ
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ……………………..

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

สนับสนุนให้ลูกพูด เล่าเรื่อง ร้องเพลง ขีดเขียน และทำท่าทางต่างๆ

สังเกตท่าทีความรู้สึกของเด็ก และตอบสนองโดยไม่บังคับ หรือตามใจลูกเกินไป ควรค่อยๆ รู้จักผ่อนปรน

จัดหาของที่มีรูปร่าง และขนาดต่างๆ ให้เด็กเล่น หัดขีดเขียน หัดนับแยกกลุ่ม และเล่นสมมุติ

พัฒนาการของเด็กวัย 4 ปี

ซักถาม "ทำไม"

ล้างหน้า แปรงฟันเองได้

บอกขนาด ใหญ่ เล็ก ยาว-สั้น

เล่นรวมกับคนอื่น รอตามลำดับก่อนหลัง

ไม่ปัสสาวะรด
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ……………………..

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

ตอบคำถามของเด็ก

เล่าเรื่องจากภาพ คุย ซักถาม เล่าเรื่อง

ฝึกให้ลูกใส่เสื้อผ้า ติด และกลัดกระดุม รูดซิป

พัฒนาการของเด็กวัย 4 ปี 6 เดือน

รู้จักสีถูกต้อง 4 สี

ยืนทรงตัวขาเดียว และเดินต่อเท้า

เลือกของที่ต่างจากพวกได้

นับได้ 1-10 รู้จักค่าจำนวน 1-5
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ……………………..

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

ให้ลูกหัดเดินบนไม้กระดานแผ่นเดียว หัดยืนทรงตัวขาเดียว และกระโดดข้ามเชือก

เล่นทาย "อะไรเอ่ย" กับลูกบ่อยๆ

ฝึกหัดนับสิ่งของและหยิบของตามจำนวน 1-5 ชิ้น

พัฒนาการของเด็กวัย 5ปี

พบผู้ใหญ่รู้จักไหว้ทำความเคารพ

รู้จักขอบคุณ

รู้จักเล่าเรื่องสั้นๆ
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ……………………..

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

ให้ลูกช่วยงานบ้านง่ายๆ และพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่ทำ เช่น ซักผ้า

ฝึกให้ลูกสังเกต รู้จักเปรียบเทียบสิ่งที่แตกต่าง และจัดกลุ่มสิ่งที่เหมือนกัน

พัฒนาการของเด็กวัย 6 ปี

นับได้ 1-30 รู้ค่าจำนวน 1-10

รู้จักซ้าย ขวา

เริ่มอ่านและเขียนตัวอักษรและตัวเลข
ลูกของท่านทำได้เมื่ออายุ……………………..

วิธีการที่พ่อแม่สามารถส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการตามวัย

ให้ลูกนับสิ่งของที่พบเห็น หัดอ่าน เขียนรูป และตัวอักษร

พูดคุยกับลูกเกี่ยวกับบุคคลต่างๆ และประเพณีท้องถิ่น

ให้ลูกวาดรูปตามความคิดของตน และเล่าเรื่องจากรูปที่วาด หรืออธิบายสิ่งที่ตนพบเห็น


ที่มาข้อมูล: กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

citibank,citibank,citibank,citibank,citibank,citibank,citibank,citibank,citibank,

โจ๊กตับไก่ (อาหารเสริมสำหรับเด็ก 6 เดือนขึ้นไป)



เขาบอกว่า ตับ นี่อุดมไปด้วยสารโปรตี นและธาตุเหล็ก เหมาะจะทำเป็นอาหารเสริมให้เด็กได้ตั้งแต่อายุ 3 เดือนกันเลย ช่วงนี้ ให้ใช้น้ำต้มตับมาผสมกับข้าวครูดเท่านั้น ต่อมาพออายุได้ 4 เดือนขึ้นไป ก็เปลี่ยนมาใช้ ตับที่ต้มจนสุกนุ่ม สับให้ละเอียด แล้วใช้ช้อนบดให้ละเอียดรวมกับข้าวผักทองหรือผักใบเขียวต้มจนสุกนุ่ม แล้วพอเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป ก็เพียงหั่นตับต้มเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ในอาหารชนิดต่าง ๆ ได้เลย

เลือกใช้ได้ทั้งตับไก่และตับหมู ที่สำคัญต้องสดใหม่ สีไม่ดำคล้ำ ไม่เละ และต้องเป็นตับที่ไม่มีดีแตก โดยเฉพาะตับไก่ เพราะถ้ามีดีแตกจะมีสีเขียว ๆ ติดอยู่ เด็กกินแล้วจะแหวะทิ้งทันที เพราะตับมีรสขม แล้วก็จะไม่กินตับอีกเลย อาหารจากตับควรจัดไว้ในรายการอาหารสำหรับเด็กอาทิตย์ละ 3 - 4 ครั้ง

ผักทุกชนิดที่ใส่ในโจ๊กตับไก่จะต้องต้มจนสุกนิ่ม และควรใส่น้ำมันพืชลงไปด้วย เพราะจะช่วยให้วิตามิน E ที่มีอยู่ในผักละลายออกมา ร่างกายจึงจะนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่




ปลายข้าวกล้องหอมมะลิ 1/4 ถ้วย
ตับไก่ 1 คู่ ไข่ไก่ฟองเล็กลวก 1 ฟอง
ตำลึงเด็ดเอาแต่ใบ 1/2 ถ้วย
แครอทหั่นสี่เหลี่ยมเล็กต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ ฟักทองหั่นสี่เหลี่ยมเล็กต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว 1 ช้อนชา
น้ำซุปไก่ 4 ถ้วย
น้ำมันพืช 1 ช้อนชา



1. ล้างตับไก่ให้สะอาด ตั้งน้ำให้เดือดจัด ๆ ใส่ตับลงไปต้มให้สุกพอดี (อย่าให้สุกเกินไปตับจะแห้งและแข็ง) ตักขึ้นแช่ในน้ำเย็น ทิ้งไว้ให้เย็น จึงหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆคลุกกับน้ำมันพืช

2. ซาวปลายข้าว 1 ครั้ง ต้มปลายข้าวกับน้ำซุปไก่จนข้าวสุกนุ่ม

3. ใส่แครอท ฟักทอง พอสุกใส่ตับไก่ ตำลึง ต้มต่อด้วยไฟอ่อนจนผักสุกนิ่ม

4. ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว คนพอทั่ว ยกลง ตักใส่ถ้วย ต่อยไข่ลวกใส่






** ถ้าเป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน อาจจะใช้วิธีนำส่วนผสมที่ต้มเสร็จ แล้วไปปั่นให้ละเอียดในเครื่องผสมอาหารก็ได้

** วิธีลวกไข่ ล้างไข่ให้สะอาด ตั้งน้ำให้เดือดจัด ปิดไฟ แล้วใส่ไข่ลงไปในหม้อ ปิดฝาทิ้งไว้ 5 นาที ตักขึ้น แช่น้ำเย็น

วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2551

การให้นมแม่ในชั่วโมงแรกหลังคลอด และการกินนมแม่เพียงอย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดจนถึงหกเดือนสามารถรักษาชีวิตทารกได้กว่า หนึ่ง ล้านคนให้ปลอดภัย




วัตถุประสงค์ในการรณรงค์ :

·เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนตระหนัก ถึงความสำคัญของการเริ่มเลี้ยงทารกด้วยนมแม่ตั้งแต่ชั่วโมงแรกของชีวิตที่สามารถช่วยชีวิตทารกเรือนล้านคน
·เพื่อส่งเสริมสัมผัสแนบชิดเนื้อแนบเนื้อระหว่างแม่กับลูกและเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วงหกเดือนแรกของชีวิต
·เพื่อสนับสนุนให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ความสำเร็จของการให้นมแม่ในช่วงชั่วโมงแรกเป็นดัชนีชี้วัดคุณภาพการป้องกันโรคและบริการด้านสุขภาพ
·เพื่อสร้างความมั่นใจว่า พ่อและแม่ตระหนักถึงความสำคัญของชั่วโมงแรกในชีวิตทารก เพื่อที่จะได้มอบโอกาสนี้แก่ลูกได้ทันที
·เพื่อสนับสนุนโครงการโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่-ลูก (BFHI) ที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขแนวทางปฏิบัติใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับการเริ่มต้นให้นมแม่ในช่วงแรกเริ่มของชีวิต

สิ่งนี้เริ่มต้นทันทีเมื่อแรกเกิด สิ่งแรกที่เราควรกระทำหลังจากได้กำเนิดขึ้นมา...ก็คือการได้ดูดนมจากอกแม่ เป็นการกระทำที่เปี่ยมด้วยความรักและความเอื้ออาทร เราไม่อาจรอดชีวิตได้หากปราศจากการกระทำนี้ มันเป็นเรื่องที่ชัดเจน เป็นวิถีแห่งชีวิตและเป็นสัจธรรม
ดาไล ลามะ และโฮเวิร์ด ซี คัทเลอร์,
The Art of Happiness A Handbook for Living.1998



ชั่วโมงแรก...ชั่วโมงทองของชีวิต
ทารกค้นหาเต้านมมารดา แม่และลูกสามารถร่วมกันทำกิจกรรมนี้จนสำเร็จ เมื่อเราศรัทธาในปฎิสัมพันธ์ระหว่างแม่-ลูก ด้วยการให้คำแนะนำและดูแลด้านการเลี้ยงดูทารกอย่างถูกต้อง นี่คือจุดเริ่มต้นของการมีชีวิต และน้ำนมแม่เป็นสายใยชีวิตระหว่างแม่กับลูก



ชั่วโมงแรกสำคัญอย่างไร

เมื่อทารกที่สุขภาพแข็งแรงได้แนบสนิทเนื้อแนบเนื้อกับทรวงอกและหน้าท้องของมารดาทันทีเมื่อแรกคลอด อกอุ่นของแม่จะช่วยกระตุ้นให้ทารก มีความตื่นตัว สามารถคืบคลาน เมื่อได้รับการกระตุ้นจากสัมผัสอันอ่อนโยนของมารดา ได้อิงแอบแนบอุทร และเอื้อมมือไขว่คว้าเต้านมของเธอ13 ทารกเริ่มสัมผัสและนวดเฟ้นเต้านม สัมผัสอันอ่อนโยนจากศีรษะและมือของทารกกระตุ้นการหลั่งสาร ออกซิโตซิน9 ในมารดา น้ำนมจึงเริ่มหลั่งไหลและความรักความผูกพันที่มีต่อลูกก็ยิ่งเพิ่มทวี หลังจากสูดดม อ้าปากงับและเลียหัวนมของแม่แล้ว ทารกก็จะเกาะกุมเต้านมและเริ่มดูดดื่มน้ำนมเพื่อยังชีพ กระบวนการนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของลูกมนุษย์
ถึงแม้ว่าได้มีนักประพันธ์หลายคนบรรยายพฤติกรรมปกติของทารกนี้เอาไว้7,13 เราพิ่งเริ่มค้นพบ ความสำคัญของการให้โอกาสเช่นนี้ต่อแม่และลูก นับเป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์ได้ประเมินผลกระทบของเวลาในการให้นมแม่ครั้งแรกกับอัตราการตายของทารก และพบว่าการตายอาจลดน้อยลง หากทารกได้เริ่มดูดนมแม่ในระหว่างชั่วโมงแรกของชีวิต (ดูในกล่องรายงานการวิจัย)

เพิ่มประสิทธิผลของน้ำนมแม่ด้วยการกินนมแม่อย่างเดียวในหกเดือนแรก

คู่มือการให้อาหารทารกและเด็กขององค์การอนามัยโลกและกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) แนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนานหกเดือน หลังจากนั้นจึงให้นมแม่ร่วมกับอาหารเสริมที่เหมาะสมจนเด็กมีอายุครบสองขวบหรือเกินกว่านั้น
การเริ่มให้นมแม่ตามปกติในช่วงนาทีแรกหรือชั่วโมงแรกนั้นเริ่มต้นด้วยการสัมผัสแบบเนื้อแนบเนื้อ ซึ่งช่วยให้การให้นมแม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด BFHI กำหนดให้มีการสัมผัสระหว่างแม่และทารก โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างบันไดขั้นที่ 4 ในบันได10 ขั้นสู่ความสำเร็จในการให้นมแม่ขององค์กรอนามัยโลกและองค์กรยูนิเซฟ

นมแม่...สิทธิแท้ของแม่และเด็ก

สนธิสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กรับรองสิทธิในการดำรงชีวิตให้แก่เด็กทุกคน เพื่อความอยู่รอดและพัฒนาการที่ดี การให้นมแม่หลังคลอดหนึ่งชั่วโมงช่วยในการรอดชีวิตของทารก ผู้หญิงมีสิทธิที่จะรับรู้ข้อมูลนี้และได้รับความช่วยเหลือในการเริ่มต้นให้นมแม่แก่ลูก

ความสำคัญของการสัมผัสแบบเนื้อแนบเนื้อหลังคลอดและการให้นมแม่ภายในชั่วโมงแรก

1 ไออุ่นจากกายของแม่ช่วยรักษาความอบอุ่นให้ทารก ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อทารกที่มีขนาดตัวเล็กและน้ำหนักแรกคลอดต่ำกว่าปกติ4
2 ทารกจะความผ่อนคลาย สงบ การหายใจและอัตราการเต้นหัวใจก็สม่ำเสมอขึ้น7
3 ทารกจะได้สัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียจากแม่ที่ส่วนใหญ่เป็นประโยชน์และไม่มีอันตรายทั้งในน้ำนมแม่ก็มีภูมิคุ้มกันอยู่ด้วย เชื้อแบคทีเรียของแม่ที่แพร่ขยายพันธุ์ในทางเดินอาหารและผิวหนังทารกจะ ต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียอันตรายที่มาจากบุคคลากรทางการแพทย์และสภาพแวดล้อม น้ำนมแม่จึงช่วยหยุดยั้งการติดเชื้อได้5
4 ทารกได้รับหัวน้ำนมสีเหลืองจากการดูดนมแม่ครั้งแรก น้ำนมสีทองคำนี้บางครั้งถูกเรียกว่าของขวัญแห่งชีวิต
· หัวน้ำนมสีเหลืองนั้นอุดมด้วยภูมิคุ้มกัน แอนติบอดี และโปรตีนป้องกันโรคอื่นๆ มันทำหน้าที่เป็นวัคซีนขนานแรกของทารก ช่วยป้องกันโรคติดเชื้อมากมาย และยังช่วยพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันของทารกที่กำลังพัฒนาขึ้นมาอีกด้วย
· หัวน้ำนมสีเหลืองมีสารที่ช่วยการเจริญเติบโต (growth factor) ซึ่งช่วยให้ลำไส้ใหญ่ของทารกแข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จุลชีพและเชื้อโรคอื่นๆ จึงเข้าสู่ร่างกายทารกได้ยากขึ้น
· หัวนำนมสีเหลืองอุดมด้วยวิตามินเอ ซึ่งช่วยป้องกันดวงตาและลดการอักเสบ
· ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ขี้เทาถูกกำจัดออกจากช่องท้องได้อย่างรวดเร็ว และสารในร่างกายทารกที่ทำให้เกิดอาการตัวเหลืองก็จะถูกขับถ่ายไปด้วย ดังนั้นโอกาสที่ทารกจะตัวเหลืองจะลดน้อยลง
· มีปริมาณน้อย เหมาะสำหรับทารกแรกคลอด
5 การสัมผัส และ ดูดเต้านมกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนออกซิโตซิน ซึ่งมีความสำคัญด้วยเหตุผลหลายประการ
· ออกซิโตซิน ทำให้มดลูกหดตัว ซึ่งอาจช่วยในการคลอดรก และลดการเสียเลือดหลังคลอด10
· ออกซิโตซิน กระตุ้นฮอร์โมนต่างๆ ทำให้แม่รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย รักและผูกพันกับลูกของตน9
· ออกซิโตซิน กระตุ้นการหลั่งน้ำนม
6 ผู้หญิงรู้สึกมีความสุขอย่างเหลือล้นเมื่อได้เห็นหน้าลูกเป็นครั้งแรก และส่วนใหญ่พ่อจะรู้สึกร่วมในความสุขนั้นด้วย สายใยความผูกพันระหว่างแม่และลูกได้เริ่มต้นขึ้น

โดยสรุปแล้ว สัมผัสแบบเนื้อแนบเนื้อ และการให้หัวนำนมสีเหลืองนั้นมีส่วนช่วยลดอัตราการตายในช่วงเดือนแรกของชีวิต นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าวมีผลในการยืดระยะเวลาการให้นมแม่เพียงอย่างเดียวและการให้นมแม่ให้นานขึ้นในเดือนต่อๆ ไป ยังทำให้ทารกมีสุขภาพแข็งแรงและอัตราการตายต่ำลงด้วย6,12

การให้นมแม่ในชั่วโมงแรกเป็นเพียงวิธีการเดียวที่รับรองได้ว่าแม่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวต่อไปรึเปล่า ไม่เลย แม่ยังจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือในการเลี้ยงลูกด้วยนมตนเองอย่างเดียวจนครบ 6 เดือน จากครอบครัว บุคคลากรทางการแพทย์ ผดุงครรภ์ หรือบุคคลในชุมชน ล้วนเป็นเครือข่ายสนับสนุนที่มีความสำคัญ แพทย์ พยาบาล สาธารณสุข และบุคคลอื่นๆ จำเป็นต้องได้รับฝึกฝนให้มองเห็นปัญหา ประเมินคุณภาพการให้นมแม่ อีกทั้งมีความรู้ความเชี่ยวชาญพอที่จะช่วยแม่แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ ช่วงเวลาการนัดพบแพทย์ที่กำหนดไว้ที่ 48-72 ชั่วโมงหลังคลอด หนึ่งสัปดาห์หลังคลอด และช่วงเวลาที่เหมาะสมหลังจากนั้น เปิดโอกาสให้สามารถเข้ามาแก้ปัญหาได้ทันท่วงที หรือ ให้กำลังใจแก่แม่เมื่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ดำเนินไปด้วยดี
การริเริ่มโครงการ BFHI ที่มี 10 ขั้นตอนสู่ความสำเร็จในการให้นมแม่ขึ้นมาใหม่ พร้อมกับการปฏิบัติตาม International Code of Marketing of Breast-milk Substitutes และ มติของสมัชชาการอนามัยโลกเป็นโครงสร้างค้ำจุนที่ช่วยป้องกัน ส่งเสริม และ สนับสนุนการให้นมแม่ให้ประสบความสำเร็จสูงสุด

นโยบายมีความสำคัญ
เราไม่ทราบว่าทารกกี่คนได้รับสัมผัสโอบอุ้มจากแม่และได้รับนมแม่ในช่วงชั่วโมงแรกของชีวิต

10 ขั้นตอนสู่ความสำเร็จในการให้นมแม่ที่รวบรวมอยู่ใน BFHI มีขั้นตอนหนึ่งที่กำหนดให้ช่วยเหลือในการให้นมแม่ใช่ช่วงชั่วโมงแรกของชีวิต ปัจจุบัน เราเข้าใจแล้วว่าทารกทุกคนควรได้สัมผัสแนบชิด/สัมผัสแบบเนื้อแนบเนื้อ แม่ทันทีหลังคลอด และมีโอกาสดูดนมแม่ทันทีที่พร้อม

ขั้นตอนอื่นที่เพิ่มโอกาสของการให้นมแม่เพียงอย่างเดียวคือ การสอนท่าให้นมแม่และจัดตำแหน่งทารกให้เหมาะสม, การให้แม่และลูกได้อยู่ด้วยกันหลังคลอด, สนับสนุนการให้นมเมื่อทารกเรียกร้อง, หลีกเลี่ยงการใช้หัวนมปลอม หรือ จุกนมหลอก และหลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ที่แพทย์ไม่ได้กำหนด ในโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่ลูก อัตราการให้นมแม่ในระยะแรกเริ่ม การให้นมแม่เพียงอย่างเดียว และระยะเวลาในการให้นมแม่อยู่ในระดับที่ดีขึ้น

# 1 รายงานการวิจัย
ถ้าทารกได้นมแม่ภายในชั่วโมงแรก อาจรักษาชีวิตทารกได้หนึ่งล้านคน
นักวิจัยในเขตชนบทของประเทศกานา ซึ่งการเริ่มให้นมแม่ตั้งแต่แรกเริ่มไม่ใช่วิถีปฏิบัติตามปกติ พบว่าทารกที่ได้นมแม่ภายในชั่วโมงแรกของชีวิตมีโอกาสรอดชีวิตหลังคลอดสูงกว่าเด็กที่ไม่ได้นมแม่ (Edmond et al, 2006)
· ทารกที่ไม่ได้นมแม่ภายใน 24 ชั่วโมงแรกของชีวิตมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าทารกที่ได้นมแม่ภายในหนึ่งชั่วโมงแรกถึง 2.5 เท่า ไม่ว่าจะได้นมแม่เพียงอย่างเดียวหรือเพียงบางส่วนก็ตาม
· 30 เปอร์เซนต์ของทารกที่ทำการศึกษาได้รับอาหารแข็งหรือนมชนิดอื่นก่อนอายุครบหนึ่งเดือน
· ทารกเหล่านี้มีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าทารกที่ได้รับนมแม่อย่างเดียวถึง 4 เท่า
· ข้อสรุป
สำหรับเขตชนบทในประเทศกานา · 16 เปอร์เซนต์ของการตายในทารกแรกเกิดสามารถป้องกันได้ หากทารกได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียวตั้งแต่วันแรกของชีวิต
· 22 เปอร์เซนต์ของการตายในทารกแรกเกิดสามารถป้องกันได้ หากทารกได้รับนมแม่ภายในหนึ่งชั่วโมงหลังการคลอด

Edmond K et al (2006) Delayed Breastfeeding Initiation Increases Risk of Neonatal Mortality. Pediatrics, 117:380-386

Edmond KM, Bard EC, Kirkwood BA. Meeting the child survival millennium development goal. How many lives can we save by increasing coverage of early initiation of breastfeeding? Poster presentation at the Child Survival Countdown Conference, London UK. December 2005.

#2 วิธีเริ่มให้นมแม่ในช่วงชั่วโมงแรกของชีวิต1, 7, 11

1 จัดหาบุคคลากรที่เหมาะสม มีความเข้าใจถึงความสำคัญนี้และคำนึงถึงขนบประเพณีที่มีในท้องถิ่น ให้มาอยู่เคียงข้างแม่ระหว่างคลอด
2 สนับสนุนวิธีต่างๆ ที่ช่วยเหลือผู้หญิงระหว่างการคลอดให้สุขสบายขึ้นโดยไม่ต้องใช้ยา เช่นการนวด สุคนธบำบัด, ธาราบำบัด, การเปลี่ยนท่าและเคลื่อนไหว3
3 ยินยอมให้แม่เลือกอยู่ในท่าคลอดที่แม่พอใจ7โดยไม่จำเป็นต้องนอนในท่าขึ้นขาหยั่ง
4 เช็ดตัวทารกให้แห้งอย่างรวดเร็ว เก็บครีมสีขาวตามธรรมชาติ (vernix) ที่ช่วยลดการระคายเคืองเอาไว้
5 บทารกที่ยังไม่สวมเสื้อผ้าให้นอนคว่ำหน้าบนทรวงอกที่เปล่าเปลือยของแม่ แล้วใช้ผ้าห่มทั้งคู่เอาไว้
6 ปล่อยทารกให้ซุกไซ้หาเต้านม แม่สามารถใช้สัมผัสกระตุ้นลูกได้และอาจจัดทารกให้อยู่ใกล้หัวนมมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ควรบังคับทารกให้งับหัวนม
7 ปล่อยให้ทารกแนบสนิทชิดเนื้อกับแม่จนจบการให้นมครั้งแรก หรือจนกว่าแม่จะพอใจ
8 ผู้หญิงที่คลอดลูกด้วยการผ่าตัดควรได้โอบอุ้มลูกอย่างใกล้ชิดทันทีหลังคลอด
9 เลื่อนขั้นตอนที่ก่อความเครียดและแทรกแซงความสัมพันธ์แม่ลูกออกไป ทารกควรได้รับการชั่งน้ำหนัก, วัดส่วนสูง และได้รับวัคซีนป้องกันโรคหลังจากดูดนมแม่แล้ว1, 11
10ทารกไม่ควรได้รับของเหลวหรืออาหารใดๆ นอกจากเมื่อมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์1, 11


# 3 ความเชื่อที่ผิด อุปสรรคต่อการเริ่มให้นมแม่

1. หัวนำนมสีเหลืองไม่ดี หรือแม้แต่เป็นอันตรายต่อทารก - ไม่จริง
หัวนำนมสีเหลืองจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการตามปกติ
- เป็นวัคซีนขนานแรกที่ช่วยป้องกันลำไส้อักเสบและการติดเชื้ออื่นๆ
- เป็นยาระบายเพื่อช่วยลดความรุนแรงของอาการตัวเหลือง

2. ทารกจำเป็นต้องได้รับชาสมุนไพรหรือของเหลวอื่นๆ ก่อนนมแม่ - ไม่จริง
การให้อาหารใดๆ (ก่อนเริ่มให้นมแม่) เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ลดโอกาสที่ทารกจะได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียว และร่นระยะเวลา
การให้นมแม่ลง6,8,11

3. หัวนำนมสีเหลืองและนมแม่ไม่เพียงพอสำหรับทารก - ไม่จริง
หัวนำนมสีเหลืองนั้นเพียงพอสำหรับอาหารมื้อแรก5 การที่ทารกแรกเกิดน้ำหนักลดลง 3-6 เปอร์เซนต์เป็นเรื่องปกติ เพราะทารกมีน้ำและ น้ำตาลสะสมในร่างกายสำหรับใช้ในช่วงเวลานี้

4. ทารกจะรู้สึกหนาว – ไม่จริง
ไออุ่นจากอกแม่เป็นอุณหภูมิที่ปลอดภัยสำหรับทารก เมื่อมีการสำผัสแบบเนื้อแนบเนื้อกับแม่5 ผิวกายของแม่จะมีอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 0.5 องศาเซลเซียสภายใน 2 นาที หลังจากวางทารกลงไป

5. หลังเจ็บท้องและคลอดบุตรแล้ว แม่เหนื่อยเกินกว่าจะให้นมลูกได้ทันที - ไม่จริง
สาร ออกซิโตซิน ที่ถูกกระตุ้นให้หลั่งด้วยสัมผัสแบบเนื้อแนบเนื้อ กับลูกและการให้นมช่วยผ่อนคลายผู้หญิงหลังคลอด

6. การดูดปาก จมูก และลำคอทารก ก่อนการสูดหายใจครั้งแรกเพื่อป้องกันการสำลักน้ำคร่ำเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทารกถ่ายอุจจาระระหว่างกระบวนการคลอด – ไม่จริง
การทำ suction ในทารกแรกเกิดที่สุขภาพดีไม่ช่วยลดการสำลักน้ำคร่ำ และอาจทำให้เนื้อเยื่อในปาก ลำคอและเส้นเสียงได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ การดูดสารทางเดินอาหารยังเป็นอุปสรรคต่อการให้นมแม่อีกด้วย13

7. จะต้องให้วิตามิเคและหยอดยาป้องกันการติดเชื้อโรคหนองในที่ตาทันทีหลังการคลอด - ไม่จริง
American College of Obsterics and Gynaecology และ Academy of Breastfeeding Medicine ระบุว่าสามารถเลื่อนการป้องกันที่จำเป็นนี้ออกไปได้หนึ่งชั่วโมง จนกว่าจะเสร็จจากการให้นมแม่ โดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ ต่อเด็ก11 ไม่ว่าในกรณีใดก็ไม่ควรแยกแม่กับลูกออกจากกัน

8. ผู้หญิงจำเป็นต้องได้รับยาช่วยบรรเทาความเจ็บปวดระหว่างคลอด - ไม่จริง
การใช้ยาชาหรือยาสลบอาจทำให้ทารกเซื่องซึม เป็นอุปสรรคต่อการซุกไซ้หาเต้านม และทำให้การให้นมครั้งแรกล่าช้าไปได้หลายชั่วโมงถึงหลายวัน7 การบำบัดเสริมอื่นๆ รวมทั้งการจัดหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนระหว่างการคลอดลูก ช่วยผู้หญิงให้รับมือกับความเจ็บปวดได้ดีขึ้น และผลการคลอดก็อาจดีขึ้นด้วย3

9. การให้ความช่วยเหลือแม่ในขั้นตอนนี้ไม่มีประโยชน์ สิ้นเปลืองเวลาและแรงงาน - ไม่จริง
ในขณะที่ทารกอยู่บนอกแม่ เจ้าหน้าที่ดูแลคลอดสามารถทำการประเมินสุขภาพแม่และทารก อีกทั้งงานอื่นๆ ไปพร้อมกันได้11 ทารกจะหาวิธีไปถึงเต้านมด้วยตนเอง
Huge wall maps - transport the earth to your house

Plan near perform awake your house? Responsibility up the center of your house is able to be a quite point in time overwhelming and challenging charge. You would absolutely alike to every plus each space to have a distinct look reflecting the personality of those who live in there. For example the kids’ space must be active and lively now similar to your kids. It should also be kid secure and provide to every one their necessities.

The usual decorate thoughts be what you usually observe approximately you in a lot of home. Why not be a petite new through your interiors and comprise things so as to would create a worth adding to your house. You would absolutely love to contain a house that you are convenient in and makes a feeling through your visitors.

For a dissimilar with pretty seem to your house the children wall maps are a fine choice value consider. You strength either have the kids wall map on one of the livelihood space ramparts or then it preserve be used in the children’s bedroom. A fresh looks to your home with kids wall map sis amazing that you and your people would love. It would prove to be a great value addition to your interiors perfectly matching with the rest of your decoration. The wall maps for kids can also be used for all the enjoyment wisdom tricks with your kids. You copped have fun sport with kids and comprise spent various excellence family time. Mutually you and your kids are going to think huge with the enjoyment occasion you would hold together during the wall map for kids.

There are several options to desire since as view wall maps for children. You might have USA wall maps or earth division diagram for your ramparts. There are also for kids maps of the solar design that are obtainable. The solar system wall map children have a meticulous bright emblem of the lunar organism amid all facets like planets, stars, meteors. A lovely look to the room and a fun way to learn new concepts is what the wall maps offer. The kids’ world wall map like the solar system maps have a laminated surface and are mark able and washable. The maps come with a lot of in a row about the dissimilar country like the vegetation and fauna, the explorers and flags to name a few. There are many enjoyment games that
you could cooperate with these maps.

The wall maps appear in a numeral of material. There are kids felt wall map that are offered. Fabric and paper wall maps are the extra option. These wall maps are particularly easy to establish and also get along. Kids would actually cover enjoyment through demonstrate and brilliant knowledge understanding. Order online has complete it extremely easy to contain a wall map for your house. With the online sites donation facilities of ordering and fee online, the wall map would be correct at your entrance in a few existences.

Cover enjoyment among your kids, it is an amazing method to find out the easy pleasure of existence.

Robert Klien reviews maps for kids, wall maps, USA wall maps, laminated wall maps, large wall maps, world wall maps, framed wall maps, world wall maps, fabric maps, country wall maps, detailed wall maps, children wall maps, kids wall map, wall maps for kids, kids wall maps, wall map for kids, wall maps for children, kids world wall map, wall map children, kids felt wall map



วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2551

โคลิค



โคลิค เป็นอาการของเด็กวัยทารกแรกเกิด ที่มีอาการคล้ายปวดท้อง ลำไส้บีบรัดตัวเป็นพักๆ ยิ่งร้องไห้มากเท่าไหร ่อากาศจะเข้าไปใส่ลำไส้ท้องจะยิ่งแข็งและผายลมออกมามาก มักจะเป็นวันละครั้ง โดยมากมักเป็นช่วงเวลาเย็นๆ จนถึงค่ำต่อเนื่องไปจนถึงดึก และเด็กจะหยุดร้องเองเมื่อเวลาผ่านไป 3-4 ชั่วโมง
ทำอย่างไรดี
ลองเปลี่ยนท่าอุ้ม ถ้าคุณเคยอุ้มลูกให้หงาย ในอ้อมแขนลองเปลี่ยนท่าอุ้มโดยอุ้มขึ้นพาดไหล่แล้วลูบหลังเบาๆ เดินไปเดินมาหรือให้อุ้มท่าคว่ำลงบนท่อนแขน ท่าอุ้มนี้ควรฝึกให้ชำนาญก่อนนะครับ ท่าอุ้มนี้จะทำให้เด็กหลายคนรู้สึกดีขึ้นและมักดีกว่าท่าอุ้มอื่นๆ เช่น
ท่าที่ 1 อุ้มลูกให้มองเข้าหาคุณ แล้วเอาลูกเข้าในอ้อมกอดให้ความอบอุ่น
ท่าที่ 2 อุ้มพาดไหล่ แล้วเดินไปมาในขณะเดียวกัน เอาฝ่ามือลูบหลังลูกไปมา
ท่าที่ 3 วางพาดบนแขนคุณ ให้แขนและขาของลูกห้อยลง แล้วพาลูกเดินไปมาโดยที่ฝ่ามือของคุณลูบหลังลูก หรือจะเลือกอุ้มแต่ละท่าสลับกันไปก็ได้นะครับ
ให้ทานยา ยาที่หมอให้ลูกทานมีหลายชนิดได้แก่ ยาขับลมในท้องเด็กมีตัวยา คือ Simethicone, ยาแก้กวน มีตัวยาคือ Phenobarb, ยาแก้ปวดท้อง มีตัวยาคือ Dicyclomine
ยาเหล่านี้บางครั้งใช้ได้ผลและบางครั้งอาจจะไม่ได้ผล โดยเฉพาะยาแก้กวนไม่ควรให้ลูกทานติดต่อกันนานๆ เพราะอาจจะทำให้ลูกกวนมากยิ่งขึ้น ยาขับลมในเด็กให้ผลที่ไม่แน่นอน ต่อการรักษาโรคนี้ ลมที่อยู่ในลำไส้ส่วนใหญ่เกิดจากการร้องของลูก แล้วกลืนลมลงไปในกระเพาะ ลำไส้ลูกจะค่อยๆ ขับลมโดยการผายลม หรือโดยการเรอออกมา สำหรับยาแก้ปวดท้องนี้ จะลดการบีบตัวของลำไส้อาจจะช่วยลดการร้องได้ แต่ควรใช้ด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะถ้าทานมากไป อาจจะเป็นอันตรายต่อลูกได้
เปลี่ยนนมช่วยได้ไหม
ในขณะนี้เชื่อว่าที่ลูกปวดท้องนั้นอาจจะเกิดจากการแพ้นมวัว การเปลี่ยนเป็นนมถั่ว เช่น โพรโซบี (Prosobee) ไอโซมิล (Isomil) หรืออัลซอย (Alsoy) หรือ นมสำหรับภูมิแพ้ คือ นูตราไมเจน (Nutramigen) หรือ พรีเจสติมิล (Pregestimil) อาจจะช่วยลดอาการปวดท้องนี้ได้ ในกรณีที่ลูกได้รับแต่นมแม่อย่างเดียว โดยไม่ได้รับนมวัว แล้วเกิดอาการโคลิค คุณแม่ควรงดดื่มนมวัว และผลิตภัณฑ์จากนมวัวทุกชนิด เช่น ไอศครีม เนย หรือนมเปรี้ยว แล้วให้ลูกทานแต่นมแม่อย่างเดียว โดยส่วนใหญ่แล้ว อาการปวดท้องของลูกจะดีขึ้น ในกรณีที่อาการของลูกยังไม่ดีขึ้น คุณควรงดอาหารทะเลและไข่ด้วย เมื่อทำเช่นนี้แล้วลูกยังไม่ดีขึ้น เมื่อทำเช่นนี้แล้ว ลูกยังคงมีอาการโคลิคเช่นเดิม ควรนำปัญหานี้มาปรึกษากับหมอนะค่ะ

ในกรณีที่คุณเปลี่ยนนมที่ให้ลูกทานจากนมวัวเป็นนมถั่ว หรือนมสำหรับภูมิแพ้แล้วอาการของลูกดีขึ้น ควรให้ลูกทานนมกลุ่มนี้ต่อไปประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วจึงค่อยๆ เปลี่ยนกลับมาทานนมวัวเช่นเดิม ถ้าอาการของลูกกลับมากำเริบอีก ก็ควรจะให้นมถั่วหรือนมสำหรับภูมิแพ้อีกครั้งเมื่อลูกอายุได้ ประมาณ 2 เดือน อาการเหล่านี้มักจะหายไปโดยสิ้นเชิง


จาก BangkokHealth

Best Online Shooting Games

Shooting games are games where you shoot at things and people. You either have a mission to accomplish or you just have to pile up your kills and blow things up. Games can offer you shooting in planes or tanks, or just face to face shooting spree. Most of the online shooting games today are for free for you to enjoy. You will be surprised how many free online shooting games there are today. Shooting games are one of the many games created and played online.

Final Defense 2 is one of the most popular shooting game online. Like other games, it is for free. It is a simple yet fun and addictive game. In the game, you have a base where you have to defend it against a swarm of wave of enemies. Other than it is a shooting game, it is also a strategic game. When you kill your enemies, you are rewarded with money for you to be able to repair and build more effective defenses as your enemies get harder.

Black Sheep Acres is another simple and fun online shooting game, which is free. In the game, you are farmer Pat who is attacked by almost all animals from the forest. The animals that attack you are gophers, deer, rabbits, and big sized red eyed nasty rabbits. Some people would not like this type of game since it involves shooting and killing animals. There is a wide variety of cool weapons and extras for you to be able to effectively protect your wall. You have a dog named Pj, a tractor, flamethrower, nailgun, and many more.

Boxhead is another free online simple shooting game. In the game, you are the man who has a gun and will try to kill the already dead zombies who are running about and killing everyone in their sight. Kill all the zombies you encounter. It is a simple and straight up game, but people have a hard time getting away from it.

War Rock is another free online shooting game. It’s a little more complicated than the other games above. It is better than a flash game. War Rock is one of the best exciting and thrilling shooting game, which has the graphics and gameplay. It is a big download and a multiplayer game. It is also considered as an MMOG. It can be put up with the best and is free. In the game, other than choosing to be an engineer, a medic, an assault, or a sniper, you can get in tanks, motorcycles, jeeps, and planes, and destroy the opposing enemy.

These are the best online shooting games right now, and they are free of charge. Even though these kinds of games promote violence, hey, its all for fun!